top of page
รูปภาพนักเขียนคิดอย่าง

ชวนอ่าน "จดหมายรัก(ษ์) ของนักศึกษาฝึกงาน โครงการอนุรักษ์วัดไชยวัฒนาราม- A LOVE? Letter from Intern

ศรัณย์กร อาจหาญ

นักศึกษาปริญญาตรี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ

นักศึกษาฝึกงานโครงการอนุรักษ์วัดไชยวัฒนาราม ปี 2565


Sarunkorn Arthan

Student at Art history Major, Faculty of Archeaology, Silpakorn University (Wang Tha Phra)

2022 AFCP Wat Chaiwatchaiwatthanaram Intern



จดหมายจากเขา


ถึง คุณ-ผู้ที่กำลังอ่าน “มัน” อยู่ ณ ตอนนี้


เขาเป็นนักศึกษาคนหนึ่งจากภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ จากมหาวิทยาลัยหนึ่งในเกาะรัตนโกสินทร์

เขาสนใจในการอนุรักษ์เพราะได้ซึบซาบมันมาจากบทเรียนในคณะวิชาที่เขาเรียน และยังกระเหี้ยนกระหือรืออยากจะเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์สักทางหนึ่ง ท้ายที่สุดเขาก็ได้สมัครไปเป็นนักศึกษาฝึกงานในโครงการอนุรักษ์ศิลปกรรมวัดไชยวัฒนาราม และก็ได้เข้ามาฝึกงานนี้อย่างจริง ๆ เสียแล้ว

เขามาถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 หลังจากเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เรียบร้อย (ทั้งที่วันเดียวกันนั้นเป็นวันที่คณะ คสช. กระทำรัฐประหาร - ช่างย้อนแย้งเหลือเกิน) เขามาถึง กมลาร์ พาเลส (บ้านพักของนักศึกษาฝึกงาน) และได้พบเพื่อนจากมหาวิทยาลัยหนึ่งในย่านรังสิต เราได้ทำความรู้จักเพียงเล็กน้อย ก่อนจะจัดข้าวของให้เข้าในที่รโหฐานและแยกย้ายไปพักผ่อน

เมื่อวันแรกของการทำงานมาถึง เราทั้งสองคนขี่จักรยานเพื่อไปยังสถานที่ทำงาน-วัดไชยวัฒนาราม ในเวลาบ่ายโมงตรง เมื่อถึง เราเจอทุกคนในโครงการนี้ ทั้งกลุ่มช่างฝีมือ, กลุ่มนักอนุรักษ์ และผู้จัดการโครงการ (ที่รับเอาพวกเราเข้ามาฝึกงานในโครงการนี้) เราทักทายทุกคน แต่มีเพียงเขากระมังที่ยังขวยเขินที่จะพูดกับทุกคน ทั้งที่เขาออกจะเป็นคนร่าเริงเมื่ออยู่กับผู้คน (ที่รู้จัก) แต่ช่างมันประไร เขาก็พร้อมที่จะซึบซับเอาองค์ความรู้จากคณะทำงานเป็นที่สุด หลังจากนั้นเอง, เขาพบกับพี่เลี้ยง (ผู้เป็นนักอนุรักษ์ในคนเดียวกัน) และได้เรียนรู้ในการทำความสะอาดจิตรกรรมภายในเมรุทิศหมายเลข 5

ภายในเมรุทิศหมายเลข 5 ก่อนั่งร้านอย่างแข็งแรง และยังเห็นจิตรกรรมลวดลายพรรณพฤกษาลาง ๆ ประดับอยู่บนผนัง เขาคิดว่า “สมควรแล้วที่ได้สมัครมาฝึกงานที่นี่ สถานที่ที่ชอบ งานที่ใช่ อะไรจะดีปานนี้” เมื่อได้ลงมือทำก็ยิ่งมันมืออยากทำไปเรื่อย ๆ แต่เวลาก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก เมื่อถึงเวลาเลิกงาน เขาก็ร่ำลากับฝาผนังของเขาก่อนจะกลับไปยังบ้านพักในตอนเย็น

ในเมรุทิศหมายเลข 5 นี้เอง เป็นที่ทำงานของเขาเป็นเวลาหลายอาทิตย์ เขาเรียนรู้หลากหลายวิธีการอนุรักษ์ (โดยเฉพาะการทำความสะอาดวัสดุต่าง ๆ เช่น อิฐ และปูน เป็นอาทิ) ทั้งยังรักในงานอนุรักษ์มากขึ้นเป็นร้อยเท่าพันทวี นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกงานที่ทำงานกับคณะทำงานอย่างแท้ เปรียบเราเป็นผู้ปฏิบัติงานอนุรักษ์มืออาชีพ (กระมัง?) ที่ทำงานให้กับองค์กรทั้งสาม อันมีสถานทูตสหรัฐอเมริกา, กรมศิลปากร และกองทุนโบราณสถานโลก อย่างไรก็ดี, ในการทำงานเช่นนี้เอง ทำให้เขามองเห็นถึงวัฒนธรรมภายในองค์กร “ทั้งสาม” นี้ได้อย่างตลอดปลอดโปร่ง ที่มีความซับซ้อนและแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ท่ามกลางเศษอิฐซากปูนในวัดไชยวัฒนาราม เขาได้พบเห็นเพชรน้ำเอกแห่งศิลปกรรมอยุธยาอยู่หลายเม็ด พระพุทธรูปปูนปั้นที่พระโอษฐ์แย้มพรายคล้ายเปล่งพุทธวาจา (ภาพที่ 1), ระเบียงหินสบู่สลับสีขาวสีแดงที่เพิ่งจะถูกนำกลับมาจัดแสดง (ภาพที่ 2), ความสมมาตรอย่างสมบูรณ์ของวัดไชยวัฒนารามที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถชั้นยอดของช่างอยุธยา (ภาพที่ 3) ตัวอย่างทั้งหมดนี้เป็นดั่งเพชรในดงชัฏที่ได้รับการเป่าปัด ขัดเกลา และเจียระไน กลายเป็นยอดแห่งศิลปกรรมอยุธยาดังที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน

ดังนี้เองทำให้เขาคิดได้ว่า วัดไชยวัฒนารามได้รุ่งเรืองถึงสองครั้ง คือ ครั้งเมื่อกรุงศรีอยุธยายังคงอยู่เป็นราชอาณาจักร ก่อนที่จะตายจากความคะนึงของมนุษย์สยามไปราวสองร้อยปี แล้วจึงฟื้นกลับมา (อย่างอิดโรย เพราะการหักล้างถางพงของเหล่าชนชั้นนำ และโจร) จนในที่สุดก็กลับมามีชื่อโชติช่วงในไม่กี่ปีมานี้ จากผลของละครเรื่องดัง ที่มีฉากเกี่ยวข้องกับวัดไชยวัฒนารามโดยตรง

หนึ่งเดือนเศษที่เขาได้คลุกคลีตีโมงอยู่กับกองเครื่องมือ ผงปูน และโบราณสถานนั้น ทำให้เขาได้เรียนรู้ที่จะ “รัก(ษ์)” สมบัติอันทรงค่ายิ่งของมวลมนุษยโลก และยังความสุขมีสู่หัวใจของเขามาก แต่เขาก็รู้ดีว่างานอนุรักษ์นั้นเป็นงานออกจะลำบากอยู่สักหน่อย เพราะถ้าจะให้พูดตามอย่างจริง ๆ ในสังคมทุนนิยม ก็คงหมายถึงเม็ดเงินที่ทำได้นั้น ไม่มากมายเหมือนงานอื่น ทั้งยังต้องอุทิศกายและใจในการทำงานอย่างยิ่งยวด กระนั้นในจิตของเขาก็ยัง “เป็นห่วงไห้อาลัยหา” เพื่อนของเขา -โบราณสถานและโบราณวัตถุที่อยู่ด้วยกันกับเขามานาน ต่อให้แยกจากกันอย่างไร ก็ต้องมีวันกลับมาให้หวนคืนอย่างแน่แท้

ต้องขอบคุณแรงบันดาลใจของเขาที่ทำให้เขาสนใจเข้าฝึกงาน และยังหยัดยืนคู่กับงานอนุรักษ์ อันได้แก่โครงการอนุรักษ์ศิลปกรรมวัดไชยวัฒนาราม ด้วยความร่วมมือของกรมศิลปากร, สถานทูตสหรัฐอเมริกา และกองทุนโบราณสถานโลก ทั้งขอขอบคุณ สมาชิกคณะทำงานภายในโครงการฯ อันได้แก่ พี่เอื้อง, พี่แอปเปิ้ล, พี่นต รวมถึงคณะช่างอย่าง แม่มะลิ, แม่แพน และแม่แหม็ง (ที่เขานับถือราวกับญาติผู้ใหญ่) และขอขอบคุณแรงกำลังใจที่ไม่เคยหยุดหย่อนจากคนสำคัญของเขาทุก ๆ คน ที่ทำให้การฝึกงานในโครงการนี้ลุเสร็จด้วยดี


ขอขอบพระคุณด้วยใจจริง,

เขาคนนั้นที่คุณนึกถึง


A letter from him


To you - who are reading “it” right now,


He is a student from the Department of Art History at a university in Rattanakosin Island.

He was interested in conservation because he had absorbed it from the lessons at his university. Also, eager to be part of the conservation in some way. Finally, he applied for an internship in the art conservation project of Wat Chaiwatthanaram and had entered this internship.

He came to Ayutthaya province on May 22 ,after the election of the governor of Bangkok. Done (although that same day was the day the NCPO carried out a coup - How contradicting!) He arrived at Kamalar Palace (the residence for interns) and met a friend from a university in the Rangsit area. We got to know a little before setting things up in a private place and dispersing to rest.

When the first day of work arrived, we both rode our bikes to our workplace - Wat Chaiwatthanaram. In the afternoon, we met everyone in this project, a group of craftsmen, and a group of conservationists and project manager (who took us to intern in this project) We greet everyone. He was embarrassed to talk to everyone. Even though, he normally seems to be cheerful around people (he knows), forget it!! He was ready to absorb the knowledge from the working group as much as possible. After that, he met a mentor. (who is a conservator in the same person) and had learned to clean the wall painting in “Meru C5”

Inside the Meru C5, there was a strong scaffolding. There were paintings of the flora patterns adorned on the walls. Suddenly, he thought “Oh! my favorite place, the right job, How good!”. When he worked on it, the more he work, the more he wanted to do it, but time flew by like a lie. When it was time to leave work. He had bid farewell to his wall. Then, he was returning to his home in the evening.

This Meru C5 where he had worked for several weeks. He learned various methods of conservation. (Especially cleaning materials such as bricks and mortar, for example) and the love of conservation has increased a hundred times more. It is also an internship that truly works with an expert working group. Encourage him to work like he is professional conservation practitioners (did it?) working for all three organizations. with the U.S. Embassy, ​​the Fine Arts Department, and the Monument Fund. This allowed him to see the culture within the "three" organizations with complete clarity that are complex and completely different.

Among the rubble of bricks and mortar in Wat Chaiwatthanaram, he had seen many diamonds of Ayutthaya art. A stucco Buddha statue which the Buddha's mouth resembles speaks words (Fig No. 1), a red-white soapstone terrace that has just been brought back on display (Fig No. 2), the complete symmetry of Wat Chaiwatthanaram that shows the great talents of Ayutthaya artisans (Fig No. 3), all these examples are like diamonds in the wild forest that have been brushed, and polished to become the pinnacle of Ayutthaya art as they are seen today.


This makes him think that Wat Chaiwatthanaram has prospered twice, once when Ayutthaya was still a kingdom. Before dying from the thought of Siamese people for about two hundred years. and then came back up again (wearily, because of the clearing of the elites and thieves) until finally regaining in recent years. Because of the impact of popular dramas with scenes directly related to Wat Chaiwatthanaram.

For month and a half that he had spent time with the pile of tools, mortar, and the ancient site. Causing him to learn to "love" the most valuable treasure of mankind. And, there was much happiness in his heart. However, he knew that conservation work was a difficult task because in a capitalist society. It would mean the amount of money that can be made not much if we compare with other jobs. They also have extremely devoted their body and mind to work. But in his mind "worried and mourning" for his friends - ancient sites and antiquities who have been together with him for a long time. When they are separate, there must be a day to come back for sure.

It was thanks to his inspiration that let him to become interested in this internship and also stand with conservation work including the art conservation project at Wat Chaiwatthanaram with the cooperation of the Fine Arts Department, the U.S. Embassy, and the World Monuments Fund, as well as thanks to the members of the working group within the project, namely P' Uang, P' Apple, and P' Notch, including a team of technicians like mommy Mali, auntie Pan and auntie Meng (who he respects like his own relatives), and thanks to the unstoppable encouragement from all his important people who made this internship project complete.


Sincerely thank you,

The person you think of

ดู 235 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page